มีหญิงสาวนางหนึ่งบอกกับผมว่าชอบชื่อหนังเรื่องนี้ดีเพราะมันเป็นชื่อมีความขัดแย้งในตัวเอง (Oxymoron) นั่นคือดวงตาเปิดกว้าง แต่ปิด จนบัดนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่า Stanley Kubrick ต้องการจะสื่อว่าอะไร ? (คือภาพตื่นเต้นจนต้องนัยน์ตาเปิดกว้าง แต่กลับไม่เห็นอะไรเลยเหมือนหลับตาอยู่ ???) ใครรู้ช่วยบอกเอาบุญหน่อยครับ ขอบคุณมาก
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของผู้กำกับอัจฉริยะที่ผู้สันทัดกรณียกย่อง
(หนังที่กระตุ้นต่อมของคนดูมากๆ ก็คือ 2001 Space odyssey ที่มีคนยกย่องว่าเป็นหนัง Cult ยุคแรก ๆ เกี่ยวกับ Monolith และการค้นพบตัวเองของมนุษย์ นอกจากนี้ยังเรื่อง Dr.Strange Love : how I learned to stop worrying and love the bomb ซึ่งเป็น Black comedy ล้อเลียนสงครามเย็น A clockwork orange หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของวัยรุ่นในโลกยุคใหม่ The shining ความคุ้มคลั่งของหัวหน้าครอบครัวหลังจากพาครอบครัวของตนไปพักในโรงแรมที่ร้าง (ในตอนหน้าหนาวหิมะตก)และได้พบกับเหตุการณ์เหนือการณ์เหนือธรรมชาติ)
หลังจากที่หนังเรื่องนี้ถูกนำออกฉายในปี 1999 ลุงแกก็ตายเสียเลย ไม่ทันได้รู้ถึงความอื้อฉาวของหนังเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไร ถูกแบนในเมืองไทย (เมืองพุทธที่ไม่รู้ว่าลุงแกจะรู้จักหรือเปล่า ?)เพราะ หนังได้รับเรท R อย่างน่าภาคภูมิใจ
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับหมอ William Bill Harford (แสดงโดย ทอมครุยส์) นายแพทย์หล่อเลา เมียสวย (แสดงโดยนิโคล คิดแมน) ลูกสาวน่ารัก แต่เป็นคนหน่อมแน้ม เอ้ย เป็นคนรักครอบครัว เรื่องที่เขาเผชิญในหนังเป็นตัวสั่นสะเทือนศีลธรรมในการรักเดียวใจเดียว (Monogamy) ที่ชนชั้นกลางยกย่องนัก ไม่ว่าการที่เมียเขามาสารภาพถึง Sexual fantasy ที่มีต่อผู้ชายคนอื่น การที่เขาคิดจะนอนกับผู้หญิงคนอื่นหลายครั้ง (มีอยู่คนหนึ่งเป็นโสเภณี) แต่ไม่สำเร็จ (เพราะเป็นคนดีเกินไป)
จนกระทั้งเขาได้เข้าร่วมงานพิธีประหลาดๆโดยผ่านเพื่อนเก่าที่ผันตัวเองไปเป็นนักเปียโน ปรากฏว่าเป็นงานเซ็กส์หมู่ (Orgy)ของชนชั้นสูงที่ปิดบังตัวเองโดยใส่หน้ากากจนเจอจับได้ว่าเป็นคนนอกแอบเข้ามา เกือบถูกทำโทษ แต่มีหญิงสาวนิรนามมาช่วยไว้ จนตัวเธอต้องตายอย่างปริศนา
คนที่ชอบหนังโป๊ๆ ชอบนิโคล คิดแมน (ตอนเปลือยร่างเกือบหมด) ดูแล้วจะชอบ แต่ไม่ใช่หนัง X เพราะฉากร่วมรักไม่ได้ขนาดนั้น แม้แต่ในฉากเซ็กส์หมู่ก็ไม่ได้ดูรุนแรงอะไร แต่ถ้าจะให้ตั้งชื่อเรื่องนี้ใหม่น่าจะเป็น 1999 : Sex Odessey มากกว่า เพราะหนังสไตล์ของลุงแกจะไม่ค่อยชอบสื่ออะไรตรงไปตรงมา คลุมเคลือเหมือน 2001
คนดูจะดูไปขนลุกไปกับเพลงประกอบที่เน้นเปียโนเสียดังเกินขนาด กับลำคาญคุณธรรมของพระเอกที่ไม่ได้ฟันใครสักที ตอนแรกไม่กล้า ตอนหลังคิดจะทำบ้างแต่เหตุการณ์ไม่เอื้อให้แล้ว (แต่ลุงแกให้ พระเอกโชคดีที่ไปรู้ทีหลังว่าโสเภณีที่เขาเกือบหลับนอนด้วยมีเชื้อ HIV)
แล้วนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ความต้องการทางเพศของมนุษย์ไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับศีลธรรม หากแต่ชนชั้นกลางเก็บกดไว้ ดังเช่น Sexual Fantasy ที่ภรรยาของพระเอกเล่าให้พระเอกฟัง ( ฉากร่วมรักในจินตนาการของนิโคลดูเป็น Art และรุนแรงดี) สุดท้ายหนังก็ยืมของทฤษฎีของFreud นั่นคือมนุษย์มีกมลสันดานคือ ต้องการเซ็กซ์ตลอดเวลา
โดยส่วนตัวผมแล้วหลังจากดูก็รู้สึกเฉยๆ ผิดหวังนิด ๆ กับความหวังที่เคยมีก่อนจะดู อาจจะเป็นเพราะลุง Kubrick แกชราภาพเต็มที การเดินเรื่องค่อนข้างเอื้อเฉื่อย ฉากหลายฉากยังไม่สามารถดึงให้คนดูมีอารมณ์ร่วมด้วย (ไม่ใช่หมายถึงฉากร่วมรักนะ) แต่ชะตากรรมของลุงคงจะสยองกว่านี้ถ้าหนังได้ฉายได้เมืองไทยแล้วโดนคณะกรรมการเซ็นเซอร์จนเหี้ยน หรือมีม่านหมอกแห่งศีลธรรม (ยืมศัพท์ของคนในพันธ์ทิพย์มาอีกที) อยู่เต็มจอไปหมด
ที่มาแหล่งข้อมูล : http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=historyandphilosophy&date=30-05-2005&group=4&gblog=97
Eyes wide shut : Audio Eng
: Sub Thai
Rip From DVD
DOWNLOAD
http://www.mediafire.com/file/e4cwnccybr5gfi8/Eye_shut.avi.001
http://www.mediafire.com/file/ulm2a0qarkfxkjk/Eye_shut.avi.002
http://www.mediafire.com/file/06x6t2hsiofxafc/Eye_shut.avi.003
http://www.mediafire.com/file/wx7anuowj4xbca9/Eye_shut.avi.004
http://www.mediafire.com/file/ggecn565yvgb4b1/Eye_shut.avi.005
http://www.mediafire.com/file/5py9hfddb06fkve/Eye_shut.avi.006
http://www.mediafire.com/file/hnnmrd322zgkreg/Eye_shut.avi.007
เด็กอายุต่ำกว่า 18 และผู้มีศีลธรรมจัดไม่ควรดูเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากหนังเรื่องนี้มีฉากทางเพศที่เสื่อมเสียศีลธรรมอันดี
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของผู้กำกับอัจฉริยะที่ผู้สันทัดกรณียกย่อง
(หนังที่กระตุ้นต่อมของคนดูมากๆ ก็คือ 2001 Space odyssey ที่มีคนยกย่องว่าเป็นหนัง Cult ยุคแรก ๆ เกี่ยวกับ Monolith และการค้นพบตัวเองของมนุษย์ นอกจากนี้ยังเรื่อง Dr.Strange Love : how I learned to stop worrying and love the bomb ซึ่งเป็น Black comedy ล้อเลียนสงครามเย็น A clockwork orange หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของวัยรุ่นในโลกยุคใหม่ The shining ความคุ้มคลั่งของหัวหน้าครอบครัวหลังจากพาครอบครัวของตนไปพักในโรงแรมที่ร้าง (ในตอนหน้าหนาวหิมะตก)และได้พบกับเหตุการณ์เหนือการณ์เหนือธรรมชาติ)
หลังจากที่หนังเรื่องนี้ถูกนำออกฉายในปี 1999 ลุงแกก็ตายเสียเลย ไม่ทันได้รู้ถึงความอื้อฉาวของหนังเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไร ถูกแบนในเมืองไทย (เมืองพุทธที่ไม่รู้ว่าลุงแกจะรู้จักหรือเปล่า ?)เพราะ หนังได้รับเรท R อย่างน่าภาคภูมิใจ
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับหมอ William Bill Harford (แสดงโดย ทอมครุยส์) นายแพทย์หล่อเลา เมียสวย (แสดงโดยนิโคล คิดแมน) ลูกสาวน่ารัก แต่เป็นคนหน่อมแน้ม เอ้ย เป็นคนรักครอบครัว เรื่องที่เขาเผชิญในหนังเป็นตัวสั่นสะเทือนศีลธรรมในการรักเดียวใจเดียว (Monogamy) ที่ชนชั้นกลางยกย่องนัก ไม่ว่าการที่เมียเขามาสารภาพถึง Sexual fantasy ที่มีต่อผู้ชายคนอื่น การที่เขาคิดจะนอนกับผู้หญิงคนอื่นหลายครั้ง (มีอยู่คนหนึ่งเป็นโสเภณี) แต่ไม่สำเร็จ (เพราะเป็นคนดีเกินไป)
จนกระทั้งเขาได้เข้าร่วมงานพิธีประหลาดๆโดยผ่านเพื่อนเก่าที่ผันตัวเองไปเป็นนักเปียโน ปรากฏว่าเป็นงานเซ็กส์หมู่ (Orgy)ของชนชั้นสูงที่ปิดบังตัวเองโดยใส่หน้ากากจนเจอจับได้ว่าเป็นคนนอกแอบเข้ามา เกือบถูกทำโทษ แต่มีหญิงสาวนิรนามมาช่วยไว้ จนตัวเธอต้องตายอย่างปริศนา
คนที่ชอบหนังโป๊ๆ ชอบนิโคล คิดแมน (ตอนเปลือยร่างเกือบหมด) ดูแล้วจะชอบ แต่ไม่ใช่หนัง X เพราะฉากร่วมรักไม่ได้ขนาดนั้น แม้แต่ในฉากเซ็กส์หมู่ก็ไม่ได้ดูรุนแรงอะไร แต่ถ้าจะให้ตั้งชื่อเรื่องนี้ใหม่น่าจะเป็น 1999 : Sex Odessey มากกว่า เพราะหนังสไตล์ของลุงแกจะไม่ค่อยชอบสื่ออะไรตรงไปตรงมา คลุมเคลือเหมือน 2001
คนดูจะดูไปขนลุกไปกับเพลงประกอบที่เน้นเปียโนเสียดังเกินขนาด กับลำคาญคุณธรรมของพระเอกที่ไม่ได้ฟันใครสักที ตอนแรกไม่กล้า ตอนหลังคิดจะทำบ้างแต่เหตุการณ์ไม่เอื้อให้แล้ว (แต่ลุงแกให้ พระเอกโชคดีที่ไปรู้ทีหลังว่าโสเภณีที่เขาเกือบหลับนอนด้วยมีเชื้อ HIV)
แล้วนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ความต้องการทางเพศของมนุษย์ไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับศีลธรรม หากแต่ชนชั้นกลางเก็บกดไว้ ดังเช่น Sexual Fantasy ที่ภรรยาของพระเอกเล่าให้พระเอกฟัง ( ฉากร่วมรักในจินตนาการของนิโคลดูเป็น Art และรุนแรงดี) สุดท้ายหนังก็ยืมของทฤษฎีของFreud นั่นคือมนุษย์มีกมลสันดานคือ ต้องการเซ็กซ์ตลอดเวลา
โดยส่วนตัวผมแล้วหลังจากดูก็รู้สึกเฉยๆ ผิดหวังนิด ๆ กับความหวังที่เคยมีก่อนจะดู อาจจะเป็นเพราะลุง Kubrick แกชราภาพเต็มที การเดินเรื่องค่อนข้างเอื้อเฉื่อย ฉากหลายฉากยังไม่สามารถดึงให้คนดูมีอารมณ์ร่วมด้วย (ไม่ใช่หมายถึงฉากร่วมรักนะ) แต่ชะตากรรมของลุงคงจะสยองกว่านี้ถ้าหนังได้ฉายได้เมืองไทยแล้วโดนคณะกรรมการเซ็นเซอร์จนเหี้ยน หรือมีม่านหมอกแห่งศีลธรรม (ยืมศัพท์ของคนในพันธ์ทิพย์มาอีกที) อยู่เต็มจอไปหมด
ที่มาแหล่งข้อมูล : http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=historyandphilosophy&date=30-05-2005&group=4&gblog=97
Eyes wide shut : Audio Eng
: Sub Thai
Rip From DVD
DOWNLOAD
http://www.mediafire.com/file/e4cwnccybr5gfi8/Eye_shut.avi.001
http://www.mediafire.com/file/ulm2a0qarkfxkjk/Eye_shut.avi.002
http://www.mediafire.com/file/06x6t2hsiofxafc/Eye_shut.avi.003
http://www.mediafire.com/file/wx7anuowj4xbca9/Eye_shut.avi.004
http://www.mediafire.com/file/ggecn565yvgb4b1/Eye_shut.avi.005
http://www.mediafire.com/file/5py9hfddb06fkve/Eye_shut.avi.006
http://www.mediafire.com/file/hnnmrd322zgkreg/Eye_shut.avi.007
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น