วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554

The Birds



The Birds กำกับโดย อัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อก ฉายในปี พ.ศ. 2506 (ค.ศ. 1963) นำแสดงโดย ทิปปี้ เฮเดรน, ร็อด เทเลอร์, เจสสิก้า แทนดี้, ซูซาน เพลเซ็ตต์ ความยาว 120 นาที
เมลานี เดเนี่ยลส์ (ทิปปี้ เฮเดรน) ลูกสาวแสนสวยของเจ้าของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของซานฟรานซิสโก ผู้ใช้ชีวิตหมดไปกับการกระทำไร้สาระไปวัน ๆ ได้เข้าไปในร้านขายสัตว์เลี้ยง และพบเจอกับ มิท (ร็อด เทเลอร์) ทนายความหนุ่ม เมลานีเกิดชอบมิททันทีที่ได้เห็น และสั่งนกเลิฟเบิร์ด 2 ตัว เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้แก่น้องสาวของมิท
ต่อมา เมลานีได้เดินทางไปถึงเมือง โบเดก้า เบย์ เมืองชายฝั่งทะเล เพื่อแอบเอานกเลิฟเบิร์ดไปให้เป็นของขวัญแก่เคธี่ น้องสาวของมิท โดยไม่ให้ครอบครัวของมิทรู้ตัว และได้พักอยู่ที่บ้านของแอนนี่ (ซูซาน เพลเซ็ตต์) อดีตแฟนสาวของมิทและครูประจำชั้นของเคธี่ ขณะที่เมลานี่กำลังขับเรือกลับอยู่นั้นนกนางนวลตัวหนึ่งได้โฉบมาจิกเธอโดยไม่ทราบสาเหตุ
เมลานีได้ใกล้ชิดกับครอบครัวของมิท โดยที่ลิเดีย แม่ของมิท (เจสสิก้า แทนดี้) ไม่ชอบใจในเมลานี ด้วยกลัวว่าเธอจะมาแย่งลูกชายไป ในงานฉลองวันเกิดของเคธี่ เช้าวันที่ บรรดานกทั้งหลายที่อยู่ในเมือง ไม่ว่าจะเป็น อีกา, นกนางนวล หรือแม้กระทั่งนกกระจอกได้รวมกลุ่มกันและอาละวาดโจมตีผู้คนจนกลายเป็นความหายนะของเมือง โดยไม่มีใครรู้สาเหตุ
The Birds เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ ดาฟเน่ต์ ดู เมอริเอ เป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากเมื่อออกฉาย โดย อัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อก ผู้กำกับซึ่งเพิ่งประสบความสำเร็จจากไซโค ภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้านั้น โดยที่ฉบับนวนิยายนั้น ผู้เขียนตั้งใจจะให้เป็นนวนิยายที่สามารถตีความได้ทางจิตวิทยา โดยให้นกเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนความหึงหวงของผู้หญิง (เมลานีที่กำลังจะมาเป็นแฟนของมิทขณะที่ลิเดียเกรงกลัวจะเสียลูกชายไป)
แต่เมื่อได้ทำเป็นภาพยนตร์แล้ว ฮิตช์ค็อกไม่ได้ตีความในประเด็นนี้อย่างชัดแจ้ง แต่เน้นไปในการสร้างบรรยายกาศระทึกขวัญจนเกือบจะเป็นสยองขวัญ มีหลายฉากที่สามารถระทึกใจผู้ชม เช่น ฉากที่เมลานีนั่งสูบบุหรี่อยู่คนเดียวขณะที่กำลังรอเคธี่ อีกาข้างหลังก็บินมาเกาะโครงเหล็กเพียงไม่กี่ตัว แต่เมื่อตัดมาอีกครั้งกลายมาเป็นฝูงอีกานับร้อยตัวและพร้อมจะโจมตีผู้คน หรือ ฉากที่ฝูงนกได้โจมตีเด็ก ๆ ที่กำลังหลบหนีจากโรงเรียนเข้าบ้าน ซึ่งไม่มีช็อตไหนหรือซีนไหนเลยที่ให้เห็นปากของนกจิกลงไปในเนื้อตัวของเด็ก ๆ แต่เพราะฉากที่ถ่ายทำออกมาชวนให้ผู้ชมคล้อยตามภาพยนตร์ไปนั่นเอง ซึ่งเหมือนกับฉากฆาตกรรมในห้องน้ำที่ลือลั่นของไซโค ที่แท้ที่จริงแล้วมีดไม่ได้ปักลงไปในตัวของแมเรี่ยน เครน เลย
ที่มาแหล่งข้อมูล :
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%81_(%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0% 
B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C)

The Birds  : Audio Eng
                  : Sub Thai
Rip From DVD

DOWNLOAD

ONCE UPON A TIME IN THE WEST


มหากาพย์หนังคาวบอยสปาเก๊ตตี้ ผลงานเรื่องที่สี่ของผู้กำกับชาว อิตาเลี่ยน หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามมาแล้วกับหนังชุด มือปืนนิรนามผู้ไม่มีใครรู้จักหัวนอนปลายเท้า 3 เรื่องติดต่อกัน ได้แก่ A FISTFUL OF DOLLARS, FOR A FEW DOLLARS MORE และ THE GOOD, THE BAD AND THE UGLY ส่งผลให้ดาราหน้าใหม่ไม่ค่อยมีใคร จำได้อย่าง คลิ้นท์ อีสท์วู้ด แจ้งเกิดกลายเป็นดาราดังขึ้นมาทันที
เซอร์จิโอ ลีโอเน่ ถือเป็นนักปฏิวัติในวงการหนังคาวบอยครับ หนังของ เซอร์จิโอทุกเรื่องเป็นความพยายามล้มล้างความคิดดั้งเดิมของผู้ชม ที่อิทธิ พลของฮอลลีวู้ดทำให้เชื่อฝังใจมาตลอดว่า ดินแดนตะวันตกในยุคบุกเบิก นั้นแสนจะสวยงามและโรแมนติค เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับทุกคนที่ขยัน ขันแข็ง มีกฎแห่งคุณธรรมคุ้มครองอยู่ทั่วไป ผู้ที่อ่อนแอกว่าจะได้รับการช่วย เหลือ กลับกลายมาเป็นแดนเถื่อนสกปรกที่เต็มไปด้วยความโลภ และการ เบียดเบียนกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ยึดถือกติกาใดๆทั้งสิ้น ผู้ประสบความ สำเร็จคือผู้ที่แข็งแรงและฉลาดแกมโกงที่สุดเท่านั้น
นอกจากเนื้อหาสาระแล้ว เซอร์จิโอยังใช้ศิลปะการถ่ายทำ และลีลาในการ ดำเนินเรื่องแบบที่ไม่เคยมีผู้กำกับฮอลลีวู้ดคนไหนทำมาก่อนด้วยครับ เช่น การใช้ภาพโคล้สอัปอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ใบหน้า จนเห็นราย ละเอียดของทั้งสีหน้าและแววตา บอกให้ผู้ชมทราบถึงอารมณ์และความรู้สึก ของตัวละครได้เองโดยไม่ต้องใช้บทพูด สลับกับภาพมุมกว้างที่จงใจให้เห็น ตัวละครเป็นจุดเล็กๆนิดเดียวบนฉากหลังที่เป็นพื้นที่แห้งแล้งอันกว้างใหญ่ ตอกย้ำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความอ้างว้างโดดเดี่ยวและแล้งน้ำใจในดินแดนตะวันตก
การเดินเรื่องก็จะเป็นไปอย่างเชื่องช้า ค่อยๆสะสมอารมณ์และความสงสัย ไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่คนดูเริ่มเบื่อหน่ายว่ามันอะไรกันนักหนา(วะ) ทำไมไปไม่ ถึงไหนเสียที จึงค่อยเข้าสู่ฉากตื่นเต้น (ที่ไม่เร่งรีบอีกเหมือนกัน)
เพลงประกอบก็เช่นกันครับ ไม่มีการใช้ดุริยางค์วงใหญ่เล่นเพลงกระหึ่มเร้า ใจแสดงความยิ่งใหญ่ของดินแดนตะวันตก แต่จะใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น เล่น ทำนองหลักด้วยเครื่องดนตรีชิ้นเดียว ออกสำเนียงไปทางเปล่าเปลี่ยว แต่ มุ่งมั่นและติดโกงๆหน่อย บางทีก็ใช้เสียงธรรมชาติ อย่างเสียงเอียดอาดของ บานพับประตู กังหันลม น้ำหยด แมลงบิน ฯลฯ มาใช้แทนเครื่องดนตรีจริง
ในหนังสามเรื่องแรกนั้น เซอร์จิโอยังไม่กล้าแสดงมุมมองของตนที่มีต่อ อเมริกาและการพิชิตตะวันตกอย่างสุดขั้วนัก ประกอบกับทุนยังน้อย จึงมี เพียงการนำเสนอสไตล์การถ่ายทำแบบใหม่ และนำเสนอพระเอกกับผู้ร้าย ที่มีรูปแบบ หน้าตา และพฤติกรรมแตกต่างไปจากค่านิยมเดิม แล้วใช้การ ล่าเงินรางวัล หรือไม่ก็ล่าสมบัติ เป็นแกนหลักของเนื้อหา พาไปยังข้อสรุปว่า ในที่สุดแล้วทุกคนยอมทำทุกอย่างเพื่อเงินทั้งนั้น มีการแทรกมุขตลกและ ฉากบู๊ที่มักเป็นแบบเหนือจริงเพื่อลดความซีเรียส
พอหนังทั้งสามเรื่องประสบความสำเร็จ ก็ถึงเวลาที่เซอร์จิโอจะทุ่มทุนสร้าง เรื่องใหม่ ในแบบฉบับของตนเองอย่างครบถ้วนเสียที หนนี้ด้วยการสนับสนุน อย่างเต็มที่จากฮอลลีวู้ด ทำให้สามารถจ้างดาราชั้นนำค่าตัวแพงอย่าง เฮนรี่ ฟอนด้า มาเล่นเป็นผู้ร้ายใจเหี้ยม และให้ ชาร์ลส บรอนสัน รับบท พระเอกนิรนามผู้มาพร้อมกับหีบเพลงปาก เมื่อใดได้ยินเสียงเป่าหีบเพลง จะต้องมีการยิงกันอย่างวินาศสันตะโรตามมาทุกครั้ง
เนื้อเรื่องแสดงให้เห็นถึงการเอารัดเอาเปรียบ การใช้ทั้งเล่ห์กลและกำลัง อย่างไร้ความปราณีโดยผู้มีอิทธิพล ที่ต้องการเข้ายึดครองที่ดินสองข้างเส้น ทางรถไฟสายใหม่ จากหม้ายสาวตัวคนเดียวที่สามีและลูกๆเพิ่งจะถูก สังหารหมู่ไปเพราะไม่ยอม แต่แล้วอยู่ดีๆพระเอกก็เข้ามาขัดขวางผู้ร้าย ด้วยแรงจูงใจหรือเหตุผลที่ไม่มีใครทราบแน่ชัด ต้องรอตอนจบจึงจะเฉลย

ONCE UPON A TIME IN THE WEST  : Audio Eng
                                                           : Sub Thai
Rip From DVD

DOWNLOAD

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Vertigo


พิศวาสหลอน ชื่อภาษาไทยของภาพยนตร์เรื่อง Vertigo กำกับโดย อัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อก นำแสดงโดย เจมส์ สจ๊วต, คิม โนแว็ค, บาบาร่า เบล กอสเดส, ทอม เฮลมอร์ ความยาว 124 นาที ออกฉายในปี พ.ศ. 2501 (ค.ศ. 1958) เข้าฉายในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2507 (ค.ศ. 1964) ในชื่อภาษาไทยว่า ปมพิศวาส
ในปี ค.ศ. 1996 พาราเมาท์ พิคเจอร์ และ ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ นำฟิล์มภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมาตัดต่อใหม่ โดยแปลงจากขนาดเดิม 35 มม. ให้เป็น 70 มม. ทำให้สามารถชมได้อย่างเต็มจอ พร้อมทั้งใส่สีและลงดนตรีใหม่ในระบบดิจิตอล และทำสำเนาฟิล์มเก็บไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งรองรับการใช้งานได้อีกราว 200 ปี เลยทีเดียว
Vertigo ผลงานระดับมาสเตอร์พิสของผู้กำกับอัจฉริยะอย่าง อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก ที่บรรยายสภาพจิตใจอันเปราะบางของมนุษย์ สอดประสานกับองค์ประกอบศิลป์ได้อย่างลึกซึ้ง ส่งต่ออารมณ์ให้กับผู้ชมจมดิ่งและคล้อยตามไปกับโลกแห่งจินตภาพบนแผ่นฟีลม์
ครั้งหนึ่งในการกล่าวสุนทรพจน์ประกาศเกียรติคุณแห่งความสำเร็จของสถาบันภาพยนตร์ อเมริกันในปี 1979 ฮิทช์ค็อคได้เล่าถึงเหตุการณ์อันเลวร้ายสมัย 5 ขวบว่า เขาถูกพ่อจับส่งสถานีตำรวจพร้อมกับจดหมายหนึ่งฉบับ หลังจากเจ้าหน้าที่อ่านจบ พวกเขาก็พาฮิทช์ค็อคเข้าไปนั่งอยู่ในห้องขังเป็นเวลาเกือบสิบนาทีก่อนที่จะ ปล่อยตัวกลับบ้าน ฮิทช์ค็อคบอกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ตามหลอกหลอนจิตใจของเขามาตลอดชีวิตด้วย เหตุนี้ ตำรวจในมุมมองของฮิทช์ค็อคจึงหมายถึงการคุกคามมากกว่าความปลอดภัย มันคืออคติที่ติดมากับหนังของเขาเกือบแทบทุกเรื่อง ใน North by Northwest แครี่ แกรนท์ต้องวิ่งหัวซุกหัวซุนหนีตำรวจที่เข้าใจผิดว่าเขาคืออาชญากร ใน ไซโค ภาพระดับโคลสอัพจับให้เห็นใบหน้าอันไม่เป็นมิตรของตำรวจสายตรวจในแว่นดำ ใกล้ซะจนทำให้คนดูและนักแสดงอึดอัดไม่แพ้กัน และใน Vertigo โพรล็อกสั้นๆ ในช่วงต้นเรื่อง บ่งบอกถึงความไร้ประสิทธิภาพของตำรวจที่ไล่จับกุมคนร้ายไม่ทัน
จินตภาพ ถ่ายทอดออกมาได้อย่างงดงาม สร้างนัยลงในรายละเอียดของหนังได้อย่างน่ามหัศจรรย์ เริ่มต้นจากภาพลายเส้นขดม้วนในดวงตาหญิงสาวระหว่างเครดิต เป็นศิลปะแบบไซคีเดลิคของซอล เบสส์ สื่อความหมายถึงความลึกลับซับซ้อน วกวนอย่างน่าพิศวง เชื่อมโยงลักษณะการจัดรูปแบบของฉากและการเคลื่อนกล้องไปในทิศทางเดียวกัน ตั้งแต่การเลือกใช้บันไดเวียนที่โค้งตัวอยู่ในหอระฆังโบสถ์ ปอยผมขดม้วนบนศีรษะของแมดเดลีน เส้นรอบวงอายุของต้นไม้ และการเลือกใช้สถานที่ถ่ายทำอย่างซานฟรานซิสโกตอกย้ำให้ผู้ชมได้วิงเวียน ชวนปวดหัวร่วมกับตัวละคร ด้วยภูมิประเทศที่มีลักษณะสูงต่ำ และเส้นทางอันลดเลี้ยวไปมา
เครื่องแต่งกาย เสริมมิติให้กับตัวละคร เป็นการเพิ่มความหมายให้แก่ผู้ที่สวมใส่โดยเฉพาะตัวนำเรื่องอย่างแมเดลีนใน ชุดเด่นๆ สามแบบคือ ชุดสูทเทาอึมครึม เป็นสีที่มีผลกระทบในเชิงจิตวิทยามากที่สุด ชุดราตรีสีดำคลุมด้วยเสื้อคลุมสีเขียวเพิ่มความรู้สึกหรูหราแต่แฝงด้วยความ ลึกลับ และเสื้อสีบลอนด์คลุมด้วยโค้ตสีขาวบ่งบอกถึงคู่ตรงข้ามสร้างความขัดแย้งในตัวเอง หนังสร้างมาจากนวนิยายในช่วงที่มีการออกฉายใหม่ๆ หนังเรื่องนี้ยังไม่ได้รับความสนใจจากผู้ชมเท่าไร แต่เมื่อผ่านไปหลายปี นักวิจารณ์ภาพยนตร์ได้มีการวิเคราะห์และตีความอย่างกว้างขวางมากขึ้น จนทำให้ Vertigo จัดเป็นภาพยนตร์ที่ทรงคุณค่าในเวลาต่อมา
ที่มาแหล่งข้อมูล :
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%AA%
E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%99

Vertigo  : Audio Eng
              : Sub Thai
Rip From DVD

DOWNLOAD

2001: A Space Odyssey (1968)


2001 จอมจักรวาล ( 2001: A Space Odyssey) เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายวิทยาศาสตร์ในชุด จอมจักรวาล ของ อาร์เทอร์ ซี. คลาร์ก เรื่อง 2001 จอมจักรวาล เกี่ยวกับการเดินทางไปยังดาวเสาร์ของมนุษย์ในปี ค.ศ. 2001 ภาพยนตร์ออกฉายในปี ค.ศ. 1968 กำกับโดยสแตนลีย์ คูบริก มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องเล็กน้อย จากดาวเสาร์ในฉบับนิยายเป็นดาวพฤหัสบดี ด้วยเหตุผลด้านเทคนิคว่าไม่สามารถสร้างฉากของดาวเสาร์ขึ้นมาได้ บทภาพยนตร์เขียนคู่ไปกับฉบับนิยาย และฉบับภาพยนตร์นี้ได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงในฐานะแบบฉบับของภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ ภาพยนตร์ได้รับรางวัลออสการ์ สาขา Visual Effects ในค.ศ. 1968
ได้รับยกย่องเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ในการสำรวจของ Sight & Sound ในปี ค.ศ. 2002 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อยู่ในหนึ่งในสิบของภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ตลอดกาล
การค้นพบแท่งหินสีดำลึกลับที่เรียกว่าโมโนลิธบนดวงจันทร์โดยบังเอิญ และค้นพบร่องรอยว่ามีแท่งหินแบบเดียวกันอีกแท่งบนดวงจันทร์จาเพตัสของดาวเสาร์ ทำให้องค์การนาซาส่งยานโอดิสซีย์ออกไปสำรวจ ลูกเรือของยานโอดิสซีย์ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ก่อนจะค้นพบความจริงของจักรวาล

ที่มาแหล่งข้อมูล : http://th.wikipedia.org/wiki/2001_%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%
B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A5_(%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%
9E%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C)

2001: A Space Odyssey: Audio Eng
                                               : Sub Thai
Rip From DVD

DOWNLOAD

Amores Perros


ความรักและสุนัข...สิ่งที่ได้มาและสิ่งที่สูญเสียไป
คำเตือน : คนรักสุนัขอาจจะต้องทำใจตอนดู

Amores Perros (2000) ภาพยนตร์ เรื่องเยี่ยมจากประเทศเม็กซิโกที่บอกเล่าถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของคน 3 คู่ โดยแต่ละคู่ก็จะมีสุนัขเป็นตัวเชื่อม เรื่องนี้จะแบ่งการเล่าเรื่องออกเป็น 3 ตอน โดยใช้ฉากที่ทั้งหมดมาบรรจบกันเป็นฉากเปิดเรื่อง ก่อนจะย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของเรื่องราว เป็น Anthology film (ภาพยนตร์ที่ร้อยเรียงเรื่องราวขึ้นมาจากเรื่องสั้นหลายๆ เรื่องที่มีความแตกต่างและมีความหลากหลาย)
สำหรับชื่อเรื่อง Amores Perros แปลตรงตัวเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า "Love's a Bitch" เป็นสำนวนหมายถึง life stinks ซึ่งถ้าจะให้แปลตรงตัวคงได้ความว่า ความรักคือหมาตัวเมีย
Amores Perros เป็นผลงานกำกับเรื่องแรกของ Alejandro González Iñárritu (อเลฮานโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตู) จาก 21 Grams (2003), Babel (2006) และได้ Rodrigo Prieto (ร็อดริโก้ ปริเอโต้) ผู้กำกับภาพชาวเม็กซิกัน ที่มีผลงานการกำกับภาพจากภาพยนตร์ชื่อดังทั้งในเม็กซิโกและฮอลลีวู้ด ภาพยนตร์ดังหลายเรื่องที่เรารู้จักกันดี ได้แก่ Original sin (2001), Frida (2002), 8 Mile (2002), 21 Grams (2003), เป็นผู้กำกับภาพให้ผู้กำกับ Oliver Stone ในมหากาพย์เรื่อง Alexander จนได้รับรางวัล Crystal Lens Award  ส่วนเรื่อง Brokeback  Mountain (2005) ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม และเรื่องล่าสุด Babel (2006)
Amores Perros : Audio Eng
                         : Sub Thai
Rip From DVD

DOWNLOAD
http://www.mediafire.com/file/4a517cpf45d3zfc/Amores.avi.001
http://www.mediafire.com/file/80u5da6u0aaeb5e/Amores.avi.002
http://www.mediafire.com/file/31zwcakbmdqhkbd/Amores.avi.003
http://www.mediafire.com/file/rtn0yj1c2345bxr/Amores.avi.004
http://www.mediafire.com/file/qb3dup1b2soueqg/Amores.avi.005
http://www.mediafire.com/file/k7956z656au2wd1/Amores.avi.006
http://www.mediafire.com/file/xs9obc4zgz9c6oe/Amores.avi.007
http://www.mediafire.com/file/bo4vabddke96lpv/Amores.avi.008
http://www.mediafire.com/file/udoegnoezc660fp/Amores.avi.009