มหากาพย์หนังคาวบอยสปาเก๊ตตี้ ผลงานเรื่องที่สี่ของผู้กำกับชาว อิตาเลี่ยน หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามมาแล้วกับหนังชุด มือปืนนิรนามผู้ไม่มีใครรู้จักหัวนอนปลายเท้า 3 เรื่องติดต่อกัน ได้แก่ A FISTFUL OF DOLLARS, FOR A FEW DOLLARS MORE และ THE GOOD, THE BAD AND THE UGLY ส่งผลให้ดาราหน้าใหม่ไม่ค่อยมีใคร จำได้อย่าง คลิ้นท์ อีสท์วู้ด แจ้งเกิดกลายเป็นดาราดังขึ้นมาทันที
เซอร์จิโอ ลีโอเน่ ถือเป็นนักปฏิวัติในวงการหนังคาวบอยครับ หนังของ เซอร์จิโอทุกเรื่องเป็นความพยายามล้มล้างความคิดดั้งเดิมของผู้ชม ที่อิทธิ พลของฮอลลีวู้ดทำให้เชื่อฝังใจมาตลอดว่า ดินแดนตะวันตกในยุคบุกเบิก นั้นแสนจะสวยงามและโรแมนติค เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับทุกคนที่ขยัน ขันแข็ง มีกฎแห่งคุณธรรมคุ้มครองอยู่ทั่วไป ผู้ที่อ่อนแอกว่าจะได้รับการช่วย เหลือ กลับกลายมาเป็นแดนเถื่อนสกปรกที่เต็มไปด้วยความโลภ และการ เบียดเบียนกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ยึดถือกติกาใดๆทั้งสิ้น ผู้ประสบความ สำเร็จคือผู้ที่แข็งแรงและฉลาดแกมโกงที่สุดเท่านั้น
นอกจากเนื้อหาสาระแล้ว เซอร์จิโอยังใช้ศิลปะการถ่ายทำ และลีลาในการ ดำเนินเรื่องแบบที่ไม่เคยมีผู้กำกับฮอลลีวู้ดคนไหนทำมาก่อนด้วยครับ เช่น การใช้ภาพโคล้สอัปอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ใบหน้า จนเห็นราย ละเอียดของทั้งสีหน้าและแววตา บอกให้ผู้ชมทราบถึงอารมณ์และความรู้สึก ของตัวละครได้เองโดยไม่ต้องใช้บทพูด สลับกับภาพมุมกว้างที่จงใจให้เห็น ตัวละครเป็นจุดเล็กๆนิดเดียวบนฉากหลังที่เป็นพื้นที่แห้งแล้งอันกว้างใหญ่ ตอกย้ำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความอ้างว้างโดดเดี่ยวและแล้งน้ำใจในดินแดนตะวันตก
การเดินเรื่องก็จะเป็นไปอย่างเชื่องช้า ค่อยๆสะสมอารมณ์และความสงสัย ไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่คนดูเริ่มเบื่อหน่ายว่ามันอะไรกันนักหนา(วะ) ทำไมไปไม่ ถึงไหนเสียที จึงค่อยเข้าสู่ฉากตื่นเต้น (ที่ไม่เร่งรีบอีกเหมือนกัน)
เพลงประกอบก็เช่นกันครับ ไม่มีการใช้ดุริยางค์วงใหญ่เล่นเพลงกระหึ่มเร้า ใจแสดงความยิ่งใหญ่ของดินแดนตะวันตก แต่จะใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น เล่น ทำนองหลักด้วยเครื่องดนตรีชิ้นเดียว ออกสำเนียงไปทางเปล่าเปลี่ยว แต่ มุ่งมั่นและติดโกงๆหน่อย บางทีก็ใช้เสียงธรรมชาติ อย่างเสียงเอียดอาดของ บานพับประตู กังหันลม น้ำหยด แมลงบิน ฯลฯ มาใช้แทนเครื่องดนตรีจริง
ในหนังสามเรื่องแรกนั้น เซอร์จิโอยังไม่กล้าแสดงมุมมองของตนที่มีต่อ อเมริกาและการพิชิตตะวันตกอย่างสุดขั้วนัก ประกอบกับทุนยังน้อย จึงมี เพียงการนำเสนอสไตล์การถ่ายทำแบบใหม่ และนำเสนอพระเอกกับผู้ร้าย ที่มีรูปแบบ หน้าตา และพฤติกรรมแตกต่างไปจากค่านิยมเดิม แล้วใช้การ ล่าเงินรางวัล หรือไม่ก็ล่าสมบัติ เป็นแกนหลักของเนื้อหา พาไปยังข้อสรุปว่า ในที่สุดแล้วทุกคนยอมทำทุกอย่างเพื่อเงินทั้งนั้น มีการแทรกมุขตลกและ ฉากบู๊ที่มักเป็นแบบเหนือจริงเพื่อลดความซีเรียส
พอหนังทั้งสามเรื่องประสบความสำเร็จ ก็ถึงเวลาที่เซอร์จิโอจะทุ่มทุนสร้าง เรื่องใหม่ ในแบบฉบับของตนเองอย่างครบถ้วนเสียที หนนี้ด้วยการสนับสนุน อย่างเต็มที่จากฮอลลีวู้ด ทำให้สามารถจ้างดาราชั้นนำค่าตัวแพงอย่าง เฮนรี่ ฟอนด้า มาเล่นเป็นผู้ร้ายใจเหี้ยม และให้ ชาร์ลส บรอนสัน รับบท พระเอกนิรนามผู้มาพร้อมกับหีบเพลงปาก เมื่อใดได้ยินเสียงเป่าหีบเพลง จะต้องมีการยิงกันอย่างวินาศสันตะโรตามมาทุกครั้ง
เนื้อเรื่องแสดงให้เห็นถึงการเอารัดเอาเปรียบ การใช้ทั้งเล่ห์กลและกำลัง อย่างไร้ความปราณีโดยผู้มีอิทธิพล ที่ต้องการเข้ายึดครองที่ดินสองข้างเส้น ทางรถไฟสายใหม่ จากหม้ายสาวตัวคนเดียวที่สามีและลูกๆเพิ่งจะถูก สังหารหมู่ไปเพราะไม่ยอม แต่แล้วอยู่ดีๆพระเอกก็เข้ามาขัดขวางผู้ร้าย ด้วยแรงจูงใจหรือเหตุผลที่ไม่มีใครทราบแน่ชัด ต้องรอตอนจบจึงจะเฉลย
เซอร์จิโอ ลีโอเน่ ถือเป็นนักปฏิวัติในวงการหนังคาวบอยครับ หนังของ เซอร์จิโอทุกเรื่องเป็นความพยายามล้มล้างความคิดดั้งเดิมของผู้ชม ที่อิทธิ พลของฮอลลีวู้ดทำให้เชื่อฝังใจมาตลอดว่า ดินแดนตะวันตกในยุคบุกเบิก นั้นแสนจะสวยงามและโรแมนติค เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับทุกคนที่ขยัน ขันแข็ง มีกฎแห่งคุณธรรมคุ้มครองอยู่ทั่วไป ผู้ที่อ่อนแอกว่าจะได้รับการช่วย เหลือ กลับกลายมาเป็นแดนเถื่อนสกปรกที่เต็มไปด้วยความโลภ และการ เบียดเบียนกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ยึดถือกติกาใดๆทั้งสิ้น ผู้ประสบความ สำเร็จคือผู้ที่แข็งแรงและฉลาดแกมโกงที่สุดเท่านั้น
นอกจากเนื้อหาสาระแล้ว เซอร์จิโอยังใช้ศิลปะการถ่ายทำ และลีลาในการ ดำเนินเรื่องแบบที่ไม่เคยมีผู้กำกับฮอลลีวู้ดคนไหนทำมาก่อนด้วยครับ เช่น การใช้ภาพโคล้สอัปอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ใบหน้า จนเห็นราย ละเอียดของทั้งสีหน้าและแววตา บอกให้ผู้ชมทราบถึงอารมณ์และความรู้สึก ของตัวละครได้เองโดยไม่ต้องใช้บทพูด สลับกับภาพมุมกว้างที่จงใจให้เห็น ตัวละครเป็นจุดเล็กๆนิดเดียวบนฉากหลังที่เป็นพื้นที่แห้งแล้งอันกว้างใหญ่ ตอกย้ำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความอ้างว้างโดดเดี่ยวและแล้งน้ำใจในดินแดนตะวันตก
การเดินเรื่องก็จะเป็นไปอย่างเชื่องช้า ค่อยๆสะสมอารมณ์และความสงสัย ไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่คนดูเริ่มเบื่อหน่ายว่ามันอะไรกันนักหนา(วะ) ทำไมไปไม่ ถึงไหนเสียที จึงค่อยเข้าสู่ฉากตื่นเต้น (ที่ไม่เร่งรีบอีกเหมือนกัน)
เพลงประกอบก็เช่นกันครับ ไม่มีการใช้ดุริยางค์วงใหญ่เล่นเพลงกระหึ่มเร้า ใจแสดงความยิ่งใหญ่ของดินแดนตะวันตก แต่จะใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น เล่น ทำนองหลักด้วยเครื่องดนตรีชิ้นเดียว ออกสำเนียงไปทางเปล่าเปลี่ยว แต่ มุ่งมั่นและติดโกงๆหน่อย บางทีก็ใช้เสียงธรรมชาติ อย่างเสียงเอียดอาดของ บานพับประตู กังหันลม น้ำหยด แมลงบิน ฯลฯ มาใช้แทนเครื่องดนตรีจริง
ในหนังสามเรื่องแรกนั้น เซอร์จิโอยังไม่กล้าแสดงมุมมองของตนที่มีต่อ อเมริกาและการพิชิตตะวันตกอย่างสุดขั้วนัก ประกอบกับทุนยังน้อย จึงมี เพียงการนำเสนอสไตล์การถ่ายทำแบบใหม่ และนำเสนอพระเอกกับผู้ร้าย ที่มีรูปแบบ หน้าตา และพฤติกรรมแตกต่างไปจากค่านิยมเดิม แล้วใช้การ ล่าเงินรางวัล หรือไม่ก็ล่าสมบัติ เป็นแกนหลักของเนื้อหา พาไปยังข้อสรุปว่า ในที่สุดแล้วทุกคนยอมทำทุกอย่างเพื่อเงินทั้งนั้น มีการแทรกมุขตลกและ ฉากบู๊ที่มักเป็นแบบเหนือจริงเพื่อลดความซีเรียส
พอหนังทั้งสามเรื่องประสบความสำเร็จ ก็ถึงเวลาที่เซอร์จิโอจะทุ่มทุนสร้าง เรื่องใหม่ ในแบบฉบับของตนเองอย่างครบถ้วนเสียที หนนี้ด้วยการสนับสนุน อย่างเต็มที่จากฮอลลีวู้ด ทำให้สามารถจ้างดาราชั้นนำค่าตัวแพงอย่าง เฮนรี่ ฟอนด้า มาเล่นเป็นผู้ร้ายใจเหี้ยม และให้ ชาร์ลส บรอนสัน รับบท พระเอกนิรนามผู้มาพร้อมกับหีบเพลงปาก เมื่อใดได้ยินเสียงเป่าหีบเพลง จะต้องมีการยิงกันอย่างวินาศสันตะโรตามมาทุกครั้ง
เนื้อเรื่องแสดงให้เห็นถึงการเอารัดเอาเปรียบ การใช้ทั้งเล่ห์กลและกำลัง อย่างไร้ความปราณีโดยผู้มีอิทธิพล ที่ต้องการเข้ายึดครองที่ดินสองข้างเส้น ทางรถไฟสายใหม่ จากหม้ายสาวตัวคนเดียวที่สามีและลูกๆเพิ่งจะถูก สังหารหมู่ไปเพราะไม่ยอม แต่แล้วอยู่ดีๆพระเอกก็เข้ามาขัดขวางผู้ร้าย ด้วยแรงจูงใจหรือเหตุผลที่ไม่มีใครทราบแน่ชัด ต้องรอตอนจบจึงจะเฉลย
ONCE UPON A TIME IN THE WEST : Audio Eng
: Sub Thai
Rip From DVD
DOWNLOAD
: Sub Thai
Rip From DVD
DOWNLOAD
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น